(2) – عَنْ عَائِشَةَ رضي الله عنها قَالَتْ: قَالَ رَسُولُ اللهِ صلى الله عليه وسلم: «مَنْ أَحْدَثَ فِي أَمْرِنَا هَذَا مَا لَيْسَ فِيهِ فَهُوَ رَدٌّ» متفق عليه.
ولمسلم: «مَنْ عَمِلَ عَمَلًا لَيْسَ عَلَيْهِ أَمْرُنَا فَهُوَ رَدٌّ». [صحيح] – [متفق عليه]
(2) – จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา เล่าว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดสร้างสิ่งที่ไม่มีในคำสอนของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ในนั้น สิ่งนั้นจะถูกปฏิเสธ” บันทึกโดยบุคอรีย์และมุสลิม และมีในบันทึกของมุสลิมคือ”ผู้ใดกระทำสิ่งใด ที่ไม่มีในคำสอนของเรา ดังนั้น การกระทำนั้นย่อมถูกปฏิเสธ” [เศาะฮีห์] – [รายงานโดย อัลบุคอรีย์ และมุสลิม]
คำอธิบาย:
ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อธิบายว่าใครก็ตามที่สร้างสิ่งใดในศาสนา หรือกระทำสิ่งใดซึ่งไม่มีหลักฐานจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์นั้น สิ่งนั้นจะถูกตีกลับไปยังเจ้าของมันและไม่เป็นที่ยอมรับโดยอัลลอฮ์.
บทเรียนที่ได้รับจากฮะดีษ:
- เรื่องอิบาดะฮ์มีรากฐานมาจากอัลกุรอานและซุนนะฮ์ ดังนั้นเราจะไม่อิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์นอกจากด้วยสิ่งที่มีบัญญัติไว้ ไม่ใช่ด้วยการอุตริหรือประดิษฐ์ขึ้นมาเอง
- ศาสนาไม่ใช่ด้วยความเห็นและการเห็นชอบ แต่ด้วยการปฏิบัติตามท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
- หะดีษนี้เป็นหลักฐานที่แสดงถึงความสมบูรณ์แบบของศาสนา.
- บิดอะฮ์คือทุกสิ่งที่อุตริขึ้นมาในศาสนา ซึ่งไม่มีในสมัยของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และสมัยของบรรดาเศาะฮาบะฮ์ของท่าน ไม่ว่าในด้านความเชื่อ คำพูด หรือการกระทำ
- หะดีษนี้เป็นหนึ่งในรากฐานของศาสนาอิสลาม เปรียบเสมือนตราชั่งสำหรับการกระทำ เช่นเดียวกับทุกๆ การกระทำที่ไม่แสวงหาความพอพระทัยจากอัลลอฮ์ ดังนั้นจะไม่มีผลบุญแก่ผู้ที่กระทำ เช่นเดียวกับทุกๆ การกระทำที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นำมา การกระทำนั้นจะถูกตีกลับไปยังผู้กระทำนั้น
- บิดอะฮ์ที่ต้องห้ามคือสิ่งที่เกี่ยวข้องทางศาสนาไม่ใช่ทางโลก